25 ก.พ. 2554

ผลงานTEDDY SKA BAND

ความเป็นมา วง TEDDY SKA BAND

Teddy Ska Band are
1. ปริญญา รัตนชูโต ( แอ๊นท์ ) Lead Vocal
2. เมธี เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ( เม ) Guitar
3. ภาคี นาวี (โย ) Bass
4. การุญ นคร (โชแปง ) Drum
5. ปิยะวิทย์ ขันธศิริ ( แชมป์ ) Violin
6. สายรุ้ง สิบหมื่นเปี่ยม ( รุ้ง ) Trumpet
7. ชัยชนะ มูลเดช ( ต่าย ) Trombone

     Teddy Ska Band เกิดจากสมาชิก 2 คนที่เคยเรียนด้วยกันที่วิทยาลัยนาฏศิลป กรุงเทพฯ คือ โย และ โชแปง ในตำแหน่งเบส และ กลอง โดยใช้ชื่อในตอนนั้นว่า Skaberry ในช่วงเวลาประมาณหนึ่งปีได้ร่วมเล่นดนตรีกับนักดนตรีหลายคนเพื่อคัดเลือกสมาชิกเข้าร่วมวง Skaberry จนได้มาเจอ เม ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของโย และ โชแปง ที่ วิทยาลัยนาฏศิลปและ ต้น ซึ่งเล่นดนตรีร้านเดียวกัน ก็เลยชักชวน เม มาเป็นมือกีตาร์ของวง แต่ในตอนนั้น ต้น ยังเรียนอยู่ เลยไม่สามารถร่วมวง Skaberry ได้ เลยได้ไปชักชวน ตุ๊กตา สุจิตรา ลิกขไชย มาร้องนำ และ ได้ทำอัลบั้มกับค่าย Genie Record 1 อัลบั้ม โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า Skaberry ในปี 2005
     หลังจากที่ได้ออกอัลบั้มไปแล้ว ตุ๊กตา ก้อได้แยกตัวออกไป ด้วยเหตุผลส่วนตัว เลยชวน ต้น กลับมาร้องนำ โดยเปลี่ยนชื่อวงเป็น Teddy Ska Band สมาชิกทั้ง 4 ก้อได้ตะเวนเล่นดนตรี ตามผับ ในแนว Ska ซึ่ง ได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้ฟังเกินคาด เพราะผับที่เล่นแนวนี่มีค่อนข้างน้อย ด้วยดนตรี Ska ที่มีจังหวะสนุก และ โชว์ที่ค่อนข้างแหวกแนว ทำให้วงเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น เพื่อต้องการสีสันเพิ่ม จึงได้ชวน แชมป์ ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่วิทยาลัยนาฏศิลป กรุงเทพฯ มาเล่น ไวโอลิน ในแบบ Ska,รุ้ง และต่าย ซึ่งเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ พระนคร ของ เม และ ต้น มาเล่น ทรัมเป็ต และ ทรอมโบนตามลำดับ ทำให้วงมีความสมบูรณ์มากขึ้น และได้การตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ
     ปัจจุบัน Teddy Ska Band เล่นอยู่ที่ Brick Bar ถ.ข้าวสาร ทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ เวลาตั้งแต่เที่ยงคืน เป็นต้นไป และ ร่วมเล่นงานอีเว้นท์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Ska Reggae หลายงานด้วยกัน และตอนนี้ทำอัลบั้มโดยไม่สังกัดค่ายเพลง
ปัจจุบันต้นได้ขอแยกตัวไปจากวงด้วยเหตุผลส่วนตัว เลยได้แอ๊นท์ซึ่งเคยร้องกับวงแนวดิสโก้ชื่อบิ๊กแด๊ดดี้ มาร้องนำแทน

ผลงานของ SRIRAJAH ROCKERS


ศรีราชา ร็อคเกอร์ ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของนิตยสาร HAMBERGER  และได้เข้ารับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของ SEASON AWARD และ FAT AWARDในปี2007 และล่าสุดได้ร่วมงานกับ BIBIM PRODUCTION / WINDY CITY ศิลปินจากประเทศเกาหลีใต้ อัลบั้ม BIBIM MEETS SRIRAJAH ROCKERS ซึ่งกำลังจะวางแผงในประเทศเกาหลีใต้และไทย

อัลบั้ม: Youth Explosion!

อัลบั้ม: Thailand Reggae Ska Paradise

ความเป็นมาวง SRIRAJAH ROCKERS

SRIRAJAH ROCKERS  ประกอบด้วย
วิน   ชูจิตารมย์  <วิน> BUBU#MAN A.K.A. ร้องนำ / กลอง/ เนื้อร้อง,ทำนอง
ธนาคาร โมกขะสมิต  <แบงค์> 84NK A.K.A.   กีต้าร์ / DUB WISE / ร้องประสาน
กษมา   ลี้ตระกูล   <หวาย> RAS OFFICE A.K.A.    ฟลุต / ร้องประสาน
นรา  เจนประภาพันธ์  <หยิน>    เบส 
ชนัฏ   อิศรางกูล ณ อยุธยา  <บอล> SURE A.K.A.   คีย์บอร์ด / เมโลเดียน /ร้องประสาน

SRIRAJAH ROCKERS      เป็นวงดนตรีที่มาจากเพื่อน โดยร่วมกันใช้จินตนาการ ร่วมกับความรู้สึกที่ออกมาจากจิตใต้สำนึกและความคิดสร้างสรรค์ของช่วงเวลาหนึ่งของวัยรุ่น ที่มีมุมมองและทัศนคติ จากความรู้สึกจริงต่อสังคมที่กำลังเปลี่ยนแปลง เป็นวัตถุนิยมและโลกาธิปไตย อย่างเต็มตัว  เราจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขัดจังหวะกระบวนการและระบบเหล่านี้ [BABYLON SYSTEM]   เพื่อให้ผู้เสพ ผู้ที่สนใจ หรือผู้ที่มีความรู้สึกแบบเดียวกัน ได้สัมผัสมุมมองที่แปลกใหม่ อย่างสร้างสรรค์
       เราจริงใจที่จะนำเสนอเพลง REGGAE ที่ถูกต้อง โดยมีจังหวะที่ค่อนข้างช้า ให้ควบคู่กับสังคมไทยในปัจจุบัน ที่มีแนวคิดชัดเจน ละเอียดอ่อน และมีอุดมการณ์ ที่เค้าว่ากันว่ากินไม่ได้ เพราะอุดมการณ์ไม่ใช่ขนม แต่คือสามัญสำนึก ความรู้สึกนึกคิด ที่อยากจะเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดีอย่างสร้างสรรค์เนื้อหาของเพลงจะไม่ค่อยพูดถึงความรัก เพราะตอนนี้เยาวชนไทยกำลังถูกหล่อหลอมให้หมกมุ่นกับเรื่องความรักมากเกินไป จากสื่อทุกแขนง ที่ต้องการเพียงแค่เงิน
       เราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปลูกจิตสำนึกเล็กๆ สู่การจุดประกายเล็กๆ เพื่อสานต่อในวันข้างหน้า ไม่มากก็น้อย ด้วยเหตุนี้เอง เราอยากให้ประเทศไทยเจริญทางด้านจิตใจมากกว่าเทคโนโลยี
แรงบันดาลใจในการทำเพลงเร็กเก้  เพลงเร็กเก้เป็นเพลงที่สนุกเต้นได้แบบไม่เหนื่อยมาก มีความเพราะที่อยู่ในเนื้อหาที่ค่อนข้างชัดเจนในแต่ละด้าน  มีจังหวะที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ เป็นเพลงที่มีการเล่นกับพื้นที่ว่างของดนตรี ที่ไม่เน้นทฤษฎี แต่เน้นความรู้สึกจาก รูป รส กลิ่น เสียง มีความน่าค้นหาและน่าทดลอง  เราจึงมีความประทับใจอย่างมากกับเร็กเก้ และcultureต่างๆ จึงเลือกที่จะฟังและเล่นเร็กเก้ แต่เราก็ไม่เคยลืมว่าจริงๆแล้ว  พื้นฐานของเรา  รากของเราคืออะไร   REGGAE ในยุค70-80นั้นมีความคล้ายกับลูกทุ่งไทย ทั้งเสียง สี และเนื้อหาตรงไปตรงมา จริงใจ ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติ ชาวบ้าน และความนุ่นนวล ที่บางเพลงและบางศิลปินแฝงด้วยเนื้อหาถึงการต่อสู้ การต่อต้านการแบ่งแยกชนชั้นและสีผิว การเสียดสีต่อสังคม ระบบและคน เอารัดเอาเปรียบ
REGGAE ไม่ใช่เพียงแค่เพลงหรือแฟชั่น แต่เป็นส่วนหนึ่งของลัทธิ RASTAFARI ที่มีแนวคิด มุมมอง และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย ด้วยความรักและสันติภาพ [PEACE & LOVE]

SRIRAJAH ROCKERS
มาจากชื่อของอำเภอศรีราชา rockers ในจาไมก้าเรียกเพลง reggae ว่าเป็นเพลง rock และได้แรงบัลดาลใจมาจากหนัง เรื่อง rockers is dangerous
HISTORY
ศรีราชาร๊อคเกอร์เริ่มจาก วิน กอล์ฟ ต๋อง(อตีตมือกีต้าร์) โดยพื้นฐานเป็นคนศรีราชาโดยกำเนิดที่มีชอบในเพลงเร็กเก้ที่เหมือนกัน เริ่มเล่นดนตรีเร็กเก้ และเขียนเพลงมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมจนเปลี่ยนได้มีการเพิ่มและเปลี่ยนสมาชิกมาเป็น SRIRAJAH ROCKERS ปัจจุบันและได้นำเพลงที่ทำไว้ให้พี่ GA-PIฟังที่บ้านศรีราชามาเรื่อยๆ โดยได้คำแนะนำจากพี่GA-PI และได้โอกาสได้ทำเพลงร่วมกับพี่GA-PIจนออกมาเป็นอัลบั้ม ศรีราชา ร๊อคเกอร์
INSPIRATION
แรงบัลดาลใจในการทำเพลงเร็กเก้ เพลงเร็กเก้เป็นเพลงที่สนุกเต้นได้แบบไม่เหนื่อยมาก มีความเพราะที่อยู่ในเนื้อหาที่ข้อนข้างชัดเจนในแต่ละด้านมีจังหวะที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ เป็นเพลงที่มีการเล่นกับพื้นที่ว่างของดนตรี และมีความน่าค้นหาอย่างบอกไม่ถูกเราจึงมีความประทับใจอย่างมากกับเร็กเก้ และcultureต่างๆ จึงเลือกที่จะฟังและเล่นเร็กเก้ แต่เราก็ไม่เคยลืมว่าจริงๆแล้ว พื้นฐานของเราคืออะไร เราคือลูกทุ่งโดยกำเนิด
ศิลปินที่ชื่นชอบ ทีโบน,The soul syndicate,The skatalite,Jackie mittoo,Linval Thompson,The Mighty Diamonds,Zimbabwe Dread,K2r riddim,Dry&heavy  ฯลฯ

ผลงานที่ผ่านมาของThe Superglasses Ska Ensemble


ผลงานที่ผ่านมา
- ชนะเลิศโครงการ “Connect Me If Can” ของค่ายสนามหลวง
- ชนะเลิศ”Sanmiguel Music Ska Series”
- ผลงานเพลง น้ำแข็งไส และฤดูร้อน ในอัลบั้ม “Chick – Ka – Chick”
- ผลงานเพลง ฤดูร้อน (Ska Version) ในอัลบั้ม Sanamluang Connect #4
- เพลงประกอบโฆษณา เนสกาแฟ ในเพลง “นิดนึง”
- Pai reggae / Ska Music Festival ครั้งที่ 3 และ 4
- Honda Summer Festival Huahin ครั้งที่ 1 และ 2
- KTD Music Festival Rock On The Beach
- Hic&Tic Reggae Ska Music Festival
- Koh Tao Music Festival
- เทศกาลดนตรี “Fat Festival”
- Late fel Music Festival 2008 (สมาคมฝรั่งเศส)
- สบายบาร์ เกาะช้าง
- Khonkaen Full Moon Party
- We Love Bob Maley กาณจนบุรี
- Seed FM. Road Show Pattaya
- Hot Wave โชว์พาวด์
- Silpakorn Jazz festival ร่วมกับวงดนตรี Jazz กว่า 30 วง
- This is ska (Ska Party)
- Gekko Bar ไร่เลห์ กระบี่
- Cill Out อ่าวต้นไทร กระบี่
- Campus Tour ม.ศิลปากร, ม.ลาดกระบังฯ, ม.กรุงเทพ, ม.ธรรมศาสตร์ ฯลฯ
- ฯลฯ

ประวัติThe Superglasses Ska Ensemble

คณะมโหรีดนตรีสกา The Super Glasses Ska Ensemble

The Super Glasses Ska Ensemble Member
1. อุ้ย    –  พันธดนย์ เจษฏารมย์ (ทรอมโบน)
2. รูดี้    –  วรุตม์ สมานทรัพย์ (ทรัมเป็ต)
3. สุบิน  –  ปริญญา พัฒน์สีทอง (ทรัมเป็ต)
4. ปิง    –  ธนะสันต์ ศรีฉ่ำ (กีต้าร์)
5. อาร์ท  –  กิตติวงษ์ ชุมแสง (กลอง)
6. แม็ก   –  อาสนัย อาตม์สกุล (นักร้อง)
7. พู่กัน   –  ภู่กันต์ ดอกนางแย้ม (นักร้อง)
8. ปอม  –  สมสกุล อาตม์สกุล (คีบอร์ด)
9. ตั้ม    –  รณวิชัย สิงห์สุข (เบส)
10. ปอย   –  จักรี พิพัฒน์โสทร (เพอร์คัสชั่น)

คณะมโหรีดนตรีสกา The Super Glasses Ska Ensemble (เดอะ ซุปเปอร์กลาสเสส สกา อองซอมเบิล) ที่จะทำให้อุณหภูมิของใจคนฟังสูงขึ้นไปพร้อม ๆ กับ ความคึกคัก ครื้นเครงไปกับการร้องเล่นเพลงสกาจากสมาชิกที่พลุกพล่านทั้ง 10 คนพวกเราเป็นพี่น้องผองเพื่อนกันที่มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ จากคน ๆ หนึ่งอยากจะมีวงสกาสนุก ๆ คนเยอะ ๆ สักวง จนไปชวนคนโน้นคนนี้ และกลายมาเป็นคณะมโหรี ดนตรีสกา The Super Glasses Ska Ensemble ในที่สุด  หลังจากนั้นได้ไปขอ ออดิชั่นเล่นตามร้านต่าง ๆ แต่ในยุคนั้น ดนตรี Reggae, Ska ยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก จนได้มาเล่นที่ร้าน Bird Eye View ถนนข้าวสาร และได้ส่งผลงานเข้าประกวด “Connect Me If You Can” ที่ทางค่ายสนามหลวงจัดขึ้นเป็นการจัดประกวดคัฟเวอร์เพลงของแกรมมี่ ครั้งนั้นได้รับรางวัลชนะเลิศ ด้วยการเรียบเรียงเพลงฤดูร้อน ของวง Paradox  ออกมาในแบบสกา
จากนั้นเป็นต้นมาพวกเราได้ช่วยกันหาแนวทางและจุดยืนของวงจนมาหยุดที่แนวทางสกาแบบดั้งเดิมของจาไมก้า (Mento) ด้วยเหตุผลที่ว่า “ไหน ๆ ก็จะเอาจริงเรื่องเพลงสกาแล้วก็ขอเอาดีแบบรากแบบดั้งเดิมเลยดีกว่า แล้วก็ผสมความเป็นไทยเข้าไปด้วย จนออกมาเป็นแบบเรา” แล้วก็ได้ออกเดินทางเล่นดนตรีไปตามเกาะต่าง ๆ , มหาวิทยาลัย, ปาร์ตี้และเฟสติวัลต่าง ๆ เพื่อเก็บประสบการณ์ และได้เข้าร่วมโปรเจ็คค่ายสนามหลวงร่วมกับวงเร็กเก้ สกา อีก 3 วง โดยส่งเพลงเข้าร่วม 2 เพลง คือ เพลง “น้ำแข็งไส” และ เพลง “ฤดูร้อน” (คัฟเวอร์) ในอัลบั้ม Chick – Ka – Chick นอกจากนี้The Superglasses ยังได้รับรางวัลชนะเลิศจากคัฟเวอร์เพลงของวงสกาหมายเลข1ของเมืองไทยคือ T-bone มาทำใหม่ในแบบของ Superglasses ในงาน Sanmikeul Muzik Fest. ตอน Ska Serie  
 ก่อนที่อัลบั้มเต็มจะออก Superglasses ได้มีโอกาสร่วมงานกับศิลปินเร็กเก้ระดับตำนานของเมืองไทยอีกคนนึง ที่เป็นที่ยอมรับในผลงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ น้าจ๊อบ บรรจบ พลอินทร์ หรือ Job2do เจ้าของเพลงดัง ดูเธอทำ ในเพลงที่ชื่อว่า ลมหวน ที่ได้อาร์ทจากวง Somrom Band วงเร็กเก้รุ่นใหม่ที่กำลังมีชื่อเสียงมากในแถบภาคใต้มาทำหน้าที่เขียนเนื้อร้องให้โดยวง Superglasses จะเป็นคนเล่นและ Job2do จะเป็นคนร้อง โดยรายได้จากขายซีดี และ ยอดดาวโหลดจะนำไปบริจาคให้โรงเรียน  ป่ากล้วยพัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวลล้อมที่ น้าจ๊อบ กับเพื่อนๆรวมกลุ่มกันรณรงค์พิทักษ์สิ่งแวลล้อม
ในขณะนี้ The Superglasses Ska Ensemble ได้ออกอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกในสังกัดค่ายเพลงอิสระ ภายใต้การโปรดิวซ์ของ คุณนครินทร์  ธีระภินันท์ (พี่กอร์ฟ วงT-bone) ในอัลบั้มที่ชื่อว่า Dancing Mood โดยในอัลบั้มนี้ได้รู้สึกเกียรติอย่างยิ่งที่มีโอกาสนำเพลงเก่าของ ทีโบน ในอัลบั้มแรกที่แต่งโดย พี่จิกประภาส ชลศรานนท ์ นำมาทำดนตรีใหม่ในแบบของพวกเราลงในอัลบั้มนี้ด้วยในเพลง”สีเดียว”และยังพี่ที่เป็น Idol ของพวกเราอีกคนคือ พี่ต้าร์ Paradox เขียนให้เราอีก 2 เพลงคือเพลง “ว้าเหว่”และ”นิดนึง”

ผลงานของ จ๊อบ บรรจบ



ผลงาน
  • "ฟรีเลิฟ" (ออกในนาม "เดอะเดวิล" กับ มิสโดโรที ลีแมนซิกค์ และ มานะ หวายนำ) (2529-LIGO)
  • Job 2 Do (2543-MGA)
  • นุ๊กกันนิคุณ (2547)
  • PP Princess Paradise (คลื่นกระซิบสั่ง)
  • บันทึกการแสดงสด Tsunami Aid Concert Live (2548)
  • No War (2549-BKP)
  • YAN unplug (2550-Here)
  • บันทึกการแสดงสด บิลลาบอง เกาะลิบง (2550)
  • สภาวะโลกร้อน (2551)

ประวัติของ จ๊อบ บรรจบ

บรรจบ พลอินทร์ หรือ จ๊อบ บรรจบ (16 ธันวาคม พ.ศ. 2501 - ) นักร้อง และนักดนตรีแนวเร็กเก้ ชาวไทย มีชื่อในการแสดงว่าวง Job 2 Do
บรรจบ พลอินทร์ เกิดที่ตำบลหนองตรุด อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง มีชื่อเล่นว่า จบ ไปใช้ชีวิตเล่นดนตรีตามสวนสาธารณะ และงานเทศกาลต่างๆ ที่เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ นานถึง 17 ปี เพื่อนนักดนตรีต่างชาติเรียกว่า จ๊อบ จึงใช้ชื่อนี้ในการเล่นดนตรี เคยได้รับรางวัลศิลปินข้างถนนยอดเยี่ยม จัดประกวดที่ รอยัลคอนเสิร์ต ฮอลล์ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อ พ.ศ. 2538 มีผลงานบันทึกเสียงชุดแรกเมื่อ พ.ศ. 2543 ชื่อชุด Job 2 Do กับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม สีสันอวอร์ด ประจำปี พ.ศ. 2543 เมื่อกลางเดือนมีนาคม พ.ศ. 2544
จ๊อบ บรรจบ แต่งงานแล้วกับ Dorothy Lemanczyk พลอินทร์ ภรรยาชาวเนเธอร์แลนด์ ปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่แถบทะเลอันดามัน จังหวัดกระบี่ และเล่นดนตรีเพื่อสังคม
ผลงานชุดล่าสุดของ บรรจบ พลอินทร์ เริ่มเป็นที่นิยม เนื่องจากเพลง "ลืมไม่ลง" ได้รับเลือกเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยเรื่อง สวยลากไส้ และเพลง "แด่คนช่างฝัน" ได้รับเลือกเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ พลอย ของ เป็นเอก รัตนเรือง
ในปี พ.ศ. 2551 เพลง "ดูเธอทำ" ยังได้เป็นเพลงประกอบโฆษณาทางโทรทัศน์ ของผลิตภัณฑ์รังนกตราสก๊อตต์

ผลงานของวง Kai-Jo Brothers

ผลงานบางส่วน

ความเป็นมา วง Kai-Jo Brothers

Kai-Jo Brothers (ไค-โจ บราเธอร์ส) คือ 10 คนดนตรีที่มีสไตล์ พร้อมสร้างสรรค์ผลงานในแบบของตนเอง ด้วยส่วนผสมดนตรีในแบบเร็กเก้, สกา, ร็อกสเตดี้, โซล เมื่อบวกกับความเป็นไทยแล้ว ทั้งหมดจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ ที่เรียกกันว่า New Root Reggae ที่ทำเอาโดนใจเด็กรุ่นใหม่ไปเต็มๆ ถือเป็นวงดนตรีเร็กเก้ อันดับต้นๆของประเทศไทย ด้วยเสียงร้อง และการแร๊พแบบ "Rgga Muffin" พร้อมเนื้อหาเพลงที่สนุก, ประหลาด, กวนประสาท แถมมีปรัชญาชีวิตครบถ้วน รวมทั้งการแสดงสดอันสนุกสนาน เร้าใจ ทำให้คนฟังสนุกสนานกันแบบเต็มที่ เรียกว่า ไค-โจ บราเธอร์ส เป็นวงหนึ่งที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่ หันมาสนใจดนตรีสไตล์เร็กเก้กันเป็นแถว เคยมีผลงานออกมาแล้วมากมาย อาทิ ปี 2002 อัลบั้มเต็มชุดแรก "Paradise", ปี 2005 กับซิงเกิ้ล "Took Took Breakdown", ปี 2006 อัลบั้มเต็มชุดที่ 2 "Reggae Passion", ปี 2007 กับ Special Album "Kai-Jo Brothers DUB" และในปีนี้ 2008 พวกเขาพร้อมแล้วกับอัลบั้มชุดที่ 3 Born to be free ภายใต้ Concept โดนใจ อิสระของดนตรี จะปลดปล่อยอิสระของหัวใจ และร่วมสนุกสนานไปกับเสียงเพลงของไคโจ

ผลงานของ T-Bone

อัลบั้ม
 
1 จังหวะนี้ใจดีเข้ากระดูกดำ(พ.ศ. 2535)

2.คุณนายสะอาด (พ.ศ.2536)
3.เล็ก ชิ้น สด (พ.ศ.2537)
4.กอด (พ.ศ. 2540)
5.Enjoy Yoursel (พ.ศ. 2548)
อีพีและซิงเกิล
1.เบาหวาน (พ.ศ. 2541)

2.มนต์รักเพลงสกา (พ.ศ.2546)
3.ขอบฟ้าเดียวกัน (พ.ศ.2549)

ความเป็นมา วง T-Bone

ทีโบน เริ่มต้นวงยุคแรกจากการเล่นประจำที่ร้านบลูมูน และร้านบลูยีนส์ โดยชื่อวง ‘ทีโบน’ นั้นนำมาจากป้ายชื่อยีห้อของกางเกงยีนส์ที่ แก๊ป-เจษฎา ธีระภินันท์ ออกแบบขาย ต่อมาทีโบนได้ไปแจมเล่นอะคูสติกกับ โอ๋ (ธีร์ ไชยเดช) ที่ร้านแซ็กโซโฟน ซึ่งเล่นมาจนถึงวันนี้นับเป็นเวลาร่วม 20 กว่าปีแล้ว และด้วยประโยค “สนใจมาเป็นซูปเปอร์สตาร์มั้ย?” คำชวนแบบทีเล่นทีจริงจาก จิก (ประภาส ชลศรานนท์) ที่มองเห็นความสามารถของวงนี้ และชักชวนให้ทีโบนเข้ามาอยู่ในวงการเป็นศิลปินออกเทปทำงานด้วยกัน จึงทำให้เกิด ‘ทีโบน’ ชุดแรกขึ้นมา
จากอัลบั้มชุดแรกของทีโบนนั้นได้มีเพลงฮิตอย่าง ‘เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม’ เกิดขึ้นมาประดับวงการทำให้วงทีโบนเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ ต่อมาทีโบนออกอัลบั้มชุดที่ 2 ‘คุณนายสะอาด’ และเมื่อจบอัลบั้มชุดที่ 3 ‘เล็ก ชิ้น สด’ ที่มีเพลงเพราะอย่าง ‘แรงดึงดูด’ ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เมื่อเปิ้ล (เจ้าของเสียงร้องในเพลง ‘เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม’) เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และทีโบนก็หมดสัญญากับทางค่ายมูเซอร์ และวอร์นเนอร์ มิวสิก จึงได้ย้ายมาอยู่กับ โซนี่ มิวสิก แทน ต่อมาทีโบนทำอัลบั้มชุดที่ 4 ‘กอด’ โดยมีเพลงดังอย่าง ‘ดาวตก’ ‘กอด’ ‘กลิ่น’ และอัลบั้มชุดพิเศษเพลงอะคูสติก 5 เพลงชื่ออัลบั้ม “เบาหวาน” นั่นคือผลงานทั้งหมดของทีโบนที่เป็นสตูดิโออัลบั้มจริงๆ
หลังจากออกจากค่ายโซนี่ มิวสิก ทีโบนก็มาสร้างค่ายเพลงของตัวเองในชื่อ หัวลำโพง ริดดิม แล้วออกอัลบั้มชุด ‘Live!’ กับซีดีบันทึกการแสดงสดเพียงเท่านี้ แต่สมาชิกในวงยังมีผลงานเดี่ยวของตัวเอง อาทิ แก๊ป ทีโบน กับซิงเกิ้ล GA-PI DUBKITCHEN และ หนุ่ม ทีโบน กับซิงเกิ้ล NUM T-BONE XXX เป็นต้น โหน่งได้ทำวงดนตรีในแนว electronic lounge music ในนาม The Photo Sticker Machine ถึงแม้ว่าสมาชิกในวงจะมีผลงานออกมา แต่วงทีโบนยังรวมตัวเล่นดนตรีกันอย่างเหนียวแน่น และเมื่อเปิดการแสดงครั้งใดวงทีโบนก็ยังได้รับการสนับสนุนจากแฟนเพลงอย่างสม่ำเสมอ ไม่เคยขาด
เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2548 ทีโบนร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีกลางแจ้ง Glastonbury ที่อังกฤษ และในกลางปี พ.ศ. 2549 ทีโบนได้ไปร่วมแสดงคอนเสิร์ตในเทศกาลดนตรี Womad ที่ประเทศสิงคโปร์
อัลบั้ม Enjoy Yourself เป็นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 5 ถัดจากอัลบั้มที่ 4 ถึง 8 ปี ซาวนด์มีความสดของการเป็นวงทีโบน เพลงในอัลบั้มนี้จะอัดสด และการโซโล่ทุกไลน์เป็นการอิมโพรไวส์ (improvise)